LG-GD910 มีลักษณะเหมือนโทรศัพท์มือถือหน้าจอทัชสกรีนขนาดจิ๋วติดสายคาดข้อมือ หน้าปัดประกอบด้วยหน้าจอทัชสกรีนระบบสัมผัสขนาด 1.4 นิ้ว ซึ่งใช้เป็นช่องทางหลักในการใช้งานแอปพลิเคชันอินเทอร์แอคทีฟ จอนี้สามารถแสดงซอฟต์คีย์เพื่อใช้งานเป็นแผงปุ่มกดหมายเลขโทรศัพท์ได้ ใต้หน้าจอมีปุ่มสำหรับกดสำหรับเข้าสู่เมนูลัดเช่นเดียวกับโทรศัพท์ทัชสกรีน ทั่วไป LG-GD910 เป็นโทรศัพท์มือถือระบบ WCDMA (wideband code division multiple access) รองรับระบบข้อมูลเทคโนโลยี HSDPA (high-speed downlink packet access) ความเร็ว 7.2 เมกะบิตต่อวินาที ทำให้การดาวน์โหลดข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสามารถทำได้อย่างรวดเร็วผู้ใช้สามารถเล่นวีดีโอคอลล์หรือการถ่ายทอดภาพเคลื่อนไหวระหว่างการ โทรศัพท์ได้ด้วยกล้องวีดีโอขนาดจิ๋วที่ติดอยู่บริเวณมุมขวาของจอภาพ รองรับ Bluetooth สามารถเล่นเพลง MP3 ได้ มีลำโพงในตัว มีแอปพลิเคชันพิเศษเช่น ฟังก์ชันแปลงข้อความเป็นเสียงพูด เป็นต้น ที่สำคัญ นาฬิกามือถือ 3G นี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำ ซึ่งเอื้อต่อการสวมใส่ที่ข้อมือไม่ต่างจากนาฬิกาข้อมือทั่วไป
ข้อมูลเบื้องต้น นาฬิกามือถือ LG GD910
- GSM Quadband , 3G , HSDPA
- สนทนาต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง
- ขนาด 61 x 39 x 13.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 84 กรัม
- การเชื่อมต่อ Bluetooth
- จอแสดงผล ระบบสัมผัส
- ป้องกันน้ำ (Water Resistant)
- โทรออกด้วยเสียง , คำสั่งเสียง
เทคโนโลยี 3G พัฒนามาจากอะไร ระบบ 3G คืออะไร และมี ความเร็ว เท่าไร
ระบบ 3G ( UMTS ) นั้นคือการนำเอาข้อดีของ ระบบ CDMA มาปรับใช้กับ GSM เรียกว่า W-CDMA ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท NTT DoCoMo ของญี่ปุ่นสำหรับเมืองไทยนั้น ระบบ 3G จะเป็น เทคโนโลยีแบบ HSPA ซึ่งแยกย่อยได้เป็น HSDPA , HSUPA และ HSPA+
HSDPA นั้นจะสามารถ รับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ Download 14.4 Mbps / Upload 384 Kbps. ( ปัจจุบันผู้ให้บริการทั่วโลกยังให้บริการอยู่ที่ Download 7.2Mbps เท่านั้น )
HSUPA จะเหมือนกับ HSDPA ทุกอย่างแต่การ Upload ข้อมูลจะวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 5.76 Mbps
HSPA+ เป็นระบบในอนาคต การ Download ข้อมูลจะอยู่ที่ 42 Mbps / Upload 22 Mbps
สำหรับในเมืองไทยนั้น ระบบ 3G ( HSPA ) ที่ Operator AIS หรือ DTAC นำมาใช้จะเป็น HSDPA โดยการ Download จะอยู่ที่ 7.2Mbps ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในไม่ช้า
ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ AirCard แบบที่รองรับ 3G คลื่นความถี่ 3G ที่ใช้กันทั่วโลก จะใช้อยู่ 3 ความถี่ที่เป็นมาตราฐานคือ 850 , 1900 และ 2100 ซึ่งเมืองไทยจะแบ่งเป็นดังนี้
คลื่นความถี่ ( band ) 850 จะถูกพัฒนาโดย Dtac และ True
คลื่นความถี่ ( band ) 2100 จะถูกพัฒนาโดย AIS
คลื่นความถี่ ( band ) 1900 ยังไม่แน่ชัดว่าจะถูกปล่อยออกโดยบริษัทไหน
ดังนั้นการเลือกซื้อ AirCard , Router หรือ โทรศัพท์มือถือ และต้องการให้รอบรับ 3G ควร check ให้ดีก่อนว่าสามารถรองรับได้ทั้ง 3 คลื่นหรือเพียงบางคลื่นเท่านั้น
ที่มาhtt://www.bcoms.net,htt://www.adslthailand.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น